เชื่อว่าใครๆ ก็อยากหุ่นดีสุขภาพดีทั้งนั้น แต่ถ้าสวาปามไม่เลือกอาจเกิดปัญหาโรคอ้วนตามติดตัวมาได้ เพราะไขมันสะสมในร่างกายมากจนเกินความจำเป็น และผู้ที่เป็นโรคอ้วน ยังเสี่ยงกับภาวะแทรกซ้อนเป็นโรคอื่นได้ง่าย ไม่ว่าจะโรคหัวใจ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และอีกหลายๆ โรค
สาเหตุโรคอ้วนส่วนใหญ่นั้น
เกิดจากกินอาหารประเภทแป้ง หรือโปรตีนเข้าไปมาก
จนร่างกายสะสมอาหารส่วนเกินมากเกินไป จนทำให้เกิดโรคอ้วน
รวมถึงมีนิสัยที่ชอบทานของหวาน เครื่องดื่มแอลกฮอร์ แล้วร่างกายเผาผลาญพลังงานไม่หมดจึงทำให้เกิดโรคอ้วนได้ง่าย
นอกจากนี้ยังพบว่ากรรมพันธุ์
ผู้ที่มีครอบครัวอ้วนทั้งหมดเป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดโรคอ้วนได้
รวมถึงวัฒนธรรมการรับประทานอาหาร และความเป็นอยู่ พวกที่นิยมอาหารมันๆ ทอดๆ
เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนง่าย
ผลเสียของโรคอ้วนคือ
1. มีปัญหาด้านสุขภาพ
เป็นโรคความดันโลหิตสูง มีความเสี่ยงกับการเป็นโรคเบาหวาน
และอาจเกิดโรคเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจตีบตันเนื่องจากมีไขมันไปอุดตันในท่อที่ลำเลียงเลือด
ทำให้เลือดแข็งตัว โรคนิ้วในถุงน้ำดี รวมถึงระบบทางเดินหายใจ
ทำให้ปอดทำงานลดลงจึงรู้สึกเหนื่อยง่าย และเมื่อมวลน้ำหนักตัวมากเกินไป
จะทำให้ข้อเสื่อมได้อีกด้วย
2. มีผลต่อบุคลิกภาพการยอมรับของสังคม
สังคมมักจะมองว่าคนอ้วนเป็นคนทานเก่ง และไม่สนใจดูแลสุขภาพ
คนอ้วนจึงต้องหันมาดูแลตนเองมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
ไม่เหนื่อยหรือแน่นหน้าอกมาก จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เพราะถ้าลดน้ำหนักลงแล้วอาการปวดเข่าหรือเหนื่อยง่าย รวมถึงปัญหานอนกรด
การกลั่นปัสสาวะไม่อยู่จะลดลง ลดการเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานอีกด้วยค่ะ
ขั้นตอนการลดน้ำหนัก
ตั้งเป้าหมายให้แน่แน่ว ว่าต้องการลดจากน้ำหนักเดิมกี่เปอร์เซ็นต์
หรือเดือนละกี่กิโลกรัม โดยลดจากพลังงาน กิโลแคลอรี่/วัน
ในเรื่องอาการการกินหรือการออกกำลังกายเผาผลาญ
โดยเฉพาะอาหารที่เป็นของมันของทอด ของหวานควรลดอย่างยิ่ง
เลิกกินน้ำอัดลมเครื่องดื่มชูกำลังทุกประเภทรวมถึงขนมหวาน ให้ไปเน้นการรับประทาน
ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์จากปลา นมและแป้งพอประมาณ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงน้ำผลไม้
เพราะอาจมีน้ำตาลเจือปนให้หันมารับประทานผลไม้สดแทนจะได้รับใยไฟเบอร์สูง
ทำให้ระบบขับถ่ายดีเลิศค่ะ และควรหมั่นออกกำลังกายให้ได้สัปดาห์ละ 5 ครั้ง ครั้งละ
30 นาที เราก็จะได้ใช้พลังงานเผาผลาญไปแล้วกว่า 300 กิโลแคลอรีค่ะ
สิ่งสำคัญควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีอย่างยิ่ง
ให้ทานอาหารเมื่อหิว ไม่ใช่ทานเมื่ออยาก พยายามเคี้ยวอาหารนานๆ
งดอาการว่างไม่ทานจุกจิก เช่นขนมขบเคี้ยว จากนั้นค่อยๆ ลดปริมาณการกินแต่ละมื้อลง
ก่อนทานอาหารจานโปรดให้ดื่มน้ำมาก ๆสัก 1 แก้ว กระเพาะจะได้กระชับมีพื้นที่เหลือน้อย
รับอาหารได้น้อยลงนั่นเองค่ะ
จากนั้นเมื่อน้ำหนักลดลงตามต้องการแล้วให้รักษาน้ำหนักให้คงที่และป้องกันน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาอีกด้วยการออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ
และควบคุมแคลอรีต่อวัน เพียงแค่นี้เราก็จะมีสุขภาพดี ห่างไกลต่อโรคอ้วนแล้วค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น