รู้เท่าทันโรค สะเก็ดเงิน




ผิวหนังที่เคยเนียนเรียบ กลับหนาตัวขึ้น แถมมีลักษณะเป็นตุ่มหรือปื้นแดงๆ มีขุยและสะเก็ดขาวติดอยู่ สร้างความทุกข์ทรมานให้แก่ผู้เป็นไม่ใช่น้อย อาการดังที่กล่าวมานี้เป็นลักษณะของโรคสะเก็ดเงินนั่นเองค่ะ หรือที่รู้จักกันดีว่าโรคเรื้อนกวาง เป็นโรคที่เกิดการอักเสบบนผิวหนัง พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ต้นเหตุของการเป็นยังไม่แน่ชัด แต่พบว่าเกิดจากผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคสะเด็กเงินมาก่อน หรือได้รับการกระตุ้น ทำให้เครียด การสูบบุหรี่ บาดเจ็บผิวหนัง หรือเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน แต่ส่วนหนึ่งพบว่ามีรากฐานมาจากพันธุกรรม คือมีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้มาก่อน และส่งต่อผ่านทางสายเลือด 

ซึ่งลักษณะของสะเก็ดแบ่งเป็น 4 ชนิด
1.ผื่นหนา โดยมีผื่นแดงหนา ชัดเป็นขุย มีสีขาวหรือสีเงิน พบได้บ่อยตามศีรษะ ลำตัว แขนขา ข้อศอกหัวเข่าบริเวณที่มีการเสียดสี
2. ผื่นขนาดเล็ก ลักษณะแดง คล้ายๆ หยดน้ำ 1 ซม . มีขุยผู้ป่วยมีประวัติติดเชื้อทางเดินหายใจมาก่อน
3. ตุ่มหนอง จะกระจายบนผิวหนังมีการอักเสบ ส่วนใหญ่เกิดจากการักษาไม่ถูกวิธี
4. แดงลอกทั้งตัว อาจเกิดจากขาดยาหรือมีปัจจัยไรมากระตุ้น



เมื่อคนไข้รู้ว่าตนเองเป็นโรคสะเก็ดเงินแล้ว จึงต้องทำความเข้าใจโรคนี้ให้ดีๆ ใส่ใจต่อสุขภาพผิว ไม่ออกแดดที่แรงจัด และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และควรได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาจากแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ส่วนการรักษานั้น หากเป็นไม่มากจะใช้ยาทาสเตียรอยด์ มีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เป็น ถ้าเป็นตามแขน ขา มือเท้า จะใช้ยารูปแบบขี้ผึ้ง แต่หากเป็นผื่นบางที่ใบหน้า ข้อพับ ไม่ควรใช้ขี้ผึ้งทา เพราะมีความรุนแรงเกินไป

ยิ่งถ้าเป็นบนศีรษะ ต้องใช้ยาน้ำ เพื่อให้ซึมเข้าสู่ศีรษะได้ดีกว่าชนิดอื่น ส่วนยาพวกฉีดหรือทานห้ามใช้กับผู้ป่วยสะเก็ดเงิน เพราะอาจเกิดตุ่มหนอง ผื่นทั้งตัวและรุนแรงกว่าเดิมได้ 

นอกจากนี้ยังมียาพวกวิตามินดี ลักษณะเป็นครีมใช้ทาบริเวณหน้า ข้อพับ หรืออวัยวะเพศได้ ส่วนผื่นที่หนังศีรษะ ใช้ยากลุ่มน้ำมันดิน เป็นแชมพู ช่วยรักษาอาการอักเสบได้เป็นอย่างดี แต่หาซื้อได้ยากต้องซื้อตามโรงพยาบาลใหญ่ๆ และยังมียาละลายขุยให้ผิวนุ่ม มีส่วนผสมของกรดอยู่ แต่ถ้ารุนแรงเยอะ ต้องรักษาด้วยยาหรือฉายแสงอาทิตย์เทียมร่วมด้วย ซึ่งต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินความเหมาะสมค่ะ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ป่วยที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน อาจเกิดโรคแทรกซ้อนได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง ระดับน้ำตาลในเลือดสูง อาจเป็นเบาหวาน และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันได้

ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินจึงควรดูแลตนเองให้ดีๆ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วน หลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เกาเพราะจะทำให้เชื้อกำเริบและควรดูแลผิวให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ จงจำไว้นะคะว่าโรคสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคติดต่อ หากมีความรู้และความเข้าใจ ดูแลสุขภาพให้ดีๆ ก็จะสามารถควบคุมโรคและกลับมาใช้ชีวิตที่ดีขึ้นได้ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น