
โรคเก๊าต์ หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าชื่อของคนจีนตั้งขึ้น แต่จริงๆ แล้วมาจากภาษาลาติน เพราะแพทย์วิทยาศาสตร์เรียกแบบภาษาอังกฤษว่า Gout จึงออกมาเป็นเสียงกว่า เก๊าต์นั่นเอง โรคนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับขาวเอเชีย เกิดจากกรดยูริกในเลือดมีปริมาณสูงมากเกินไป เกินกว่าที่จะสามารถอยู่ในเลือดในรูปสารละลายได้ จึงตกสะสมในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะในกระดูก เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง และไต จึงทำให้เกิดข้ออักเสบ ตามศอก นิ้ว ตาตุ่ม เป็นก้อนเกิดขึ้น
อาการที่แสดงออก
ผู้ป่วยที่เป็นโรคเก๊าต์จะมีระยะเป็นๆ
หายๆ ซ้ำๆ บริเวณเดิม ๆ ปีละ 1-2 ครั้ง ต่อมาจะเริ่มเป็นปีละ 4-5 ครั้ง
ข้ออักเสบจะเพิ่มขึ้นจาก 1-2 ข้อเป็น 3-4 ข้อ จนเป็นต่อหลายๆ ข้อ
จะมีอาการข้ออักเสบ บวม แดงร้อน และปวดมากตามข้อเจ็บปวดอยู่นาน 5-7 วัน
อาการจะทุเลาเบาขึ้น เมื่อข้ออักเสบที่เกิดขึ้นใหม่จะมีอาการประมาณนี้
จนกระทั้งเป็นมากขึ้น มีการอักเสบของข้อมากขึ้นและรุนแรงขึ้นจึงเกิดปุ่มก้อนของกรดยูริคในเลือดสูงยิ่งสะสมปริมาณมากขึ้นจะเกิดภาวะไตวายได้ค่ะ
โรคเก๊าต์มักเกิดกับผู้ชายในวัยประมาณ
40 ปี แต่ถ้าเกิดในผู้หญิงมักจะพบในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนแล้ว
ส่วนอาหารที่มีกรดยูริกมาก มีส่วนในการกระตุ้นให้เกิดโรคเก๊าท์ คืออาหารจำพวกสัตว์ปีก
ปลาอินทรีย์ ถั่วแดง ถั่วดำ ผักชะอม เครื่องในสัตว์ตับ ตับอ้อน หัวใจ สมอง เซ่งจี๊
และยอดผักของพืชทุกชนิด
ซึ่งส่วนใหญ่โรคเก๊าต์นั้นเกิดขึ้นกับพฤติกรรมการกินของมนุษย์อย่างเราๆ นั่นเองค่ะ
ดังนั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคเก๊าต์
ต้องระมัดระวังอย่าให้เก๊าท์กำเริบอีก คือหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดยูริกสูง
โดยเฉพาะพวกเหล้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ควรหลีกเลี่ยง
เพราะจะกระตุ้นให้กรดยูริกในเลือดสูงได้ ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายเราจะได้กรดยูริกมาจาก 2 แหล่งคือ
1. ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเอง โดยการสลายตัวของเซลล์อวัยวะต่างๆ แต่บางคนที่ป่วยเป็นโรค ธาลัสซีเมีย
มะเร็งเม็ดเลือดขาว จะมีการสลายตัวของเซลล์ในร่างกายผิดปกติไปด้วย
2. รับจากการกินอาหาร เช่นเนื้อไก่ เครื่องในสัตว์ รวมถึงถั่วชนิดต่างๆ
วิธีการรักษา
แพทย์จะทำการตรวจหากพบว่าเป็นโรคเก๊าต์
จะให้ยาแก้อักเสบ หรือยาโคลซิซินเพื่อลดอาการปวดข้อและอักเสบ
แต่มีผลข้างเคียงอาจทำให้ท้องเสีย ส่วนการรักษาระยะยาว ใช้ยาลดกรดยูริกในเลือด
เช่นยาอัลโลพูรินอล กินวันละครั้ง ควรกินอย่างต่อเนื่องนานอย่างน้อย 3-5 ปี
หากกินๆ หยุดๆ อาจทำให้แพ้ยาได้ง่าย
หรือมีผื่นผิวหนังชนิดรุนแรงเกิดขึ้นกับร่างกายได้ค่ะ
ที่สำคัญควรงดการนวดและห้ามนวดเด็ดขาดถ้าผู้ป่วยเป็นโรคเก๊าต์อยู่ในระยะข้ออักเสบเพราะจะทำให้อักเสบรุ่นแรงหายช้าได้นะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น